บทที่ 7 เรื่อง โมเด็มและการ์ดแสดงเสียง
โมเด็มคือ ?
โมเด็มหรือ Modem ย่อมาจากคำว่า Modylation/Demodulation มีหน้าที่หลักคือ ทำการแปลงสัญญาณดิจิตอลให้เป็นสัญญาณเสียง และแปลงสัญญาณเสียงกลับมาเป็นสัญญาณดิจิตอลหรือทำความเข้าใจแบบง่ายๆ ก็คือทำการแปลงข้อมูลต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณเสียง เพื่อให้สามารถส่งออกไปทางคู่สายโทรศัพท์ได้ กลับมาเป็นข้อมูลต่างๆ เหมือนเดิมได้
ประโยชน์ที่เห็นและใช้งานกันค่อนข้างมาก คือการนำมาใช้สำหรับส่งข้อมูลต่างๆ หรือใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ต ยิ่งเป็นโมเด็มที่มีความเร็วสูงๆ เช่น Modem ADSL ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันสามารถส่งข้อมูลได้ถึง 128 KBPS ซึ่งจะทำให้สามารถส่งข้อมูลที่มีปริมาณมากๆ เช่นไฟล์ภาพยนต์ ไฟล์เพลง หรือไฟล์ข้อมูลปริมาณมากๆ ได้ในเวลาไม่กี่วินาที
การแบ่งประเภทของโมเด็ม
สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทคือ
1.Internal
2. External
3.PCMCIA
1. Internal Modem
Internal Modem เป็นโมเด็มที่มีลักษณะเป็นการ์ดเสียบกับสล็อตของเครื่องอาจจะเป็นแบบ ISA หรือ PCI
ข้อดี
1. ไม่เปลืองเนื้อที่ไม่เกะกะ
2. ราคาถูก
3. ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยงต่างหาก เปิดเครื่องใช้งานได้ทันที
4.ไม่มีปัญหากับเครื่องคอมรุ่นเก่าที่มีชิป UART ที่มีความไวต่ำ เพราะการทำงานไม่ผ่าน Serial Port
5. ส่งถ่ายข้อมูลได้สูงกว่าแบบที่อยู่ภายนอก
ข้อเสีย
1. ติดตั้งยากกว่า แบบภายนอก
2. เนื่องจากติดตั้งภายในเครื่องทำให้ใช้ไฟในเครื่องอันส่งผลให้เพิ่มความร้อนในเครื่อง
3. เสียสล็อตของเครื่องไปหนึ่งสล็อต
4.เคลื่อนย้ายไปใช้เครื่องอื่นได้ยาก
5. ติดตั้งได้เฉพาะเครื่องคอมฯแบบ PC เท่านั้นไม่สามารถใช้งานกับ Notebook ได้
2. External Modem
External Modem เป็นโมเด็มที่ติดตั้งภายนอกโดยจะต่อกับ Serial Port อาจจะเป็นที่ Com1 หรือ Com2 ของเครื่องคอมพิวเตอร์
ข้อดี
1. สามารถเคลื่อย้ายไปใช้กับเครื่องอื่นได้ง่าย
2. ติดตั้งได้ง่ายกว่า
3. ไม่เพิ่มความร้อนให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจากติดตั้งอยู่ภายนอกและใช้แหล่งจ่ายไฟภาย
4. สามารถใช้งานกับเครื่อง Notebook ได้เนื่องจากต่อกับ Serial Port หรือ Parallel Port มีไฟแสดง สภาวะการทำงานของโมเด็ม
ข้อเสีย
1. ราคาแพง
2. เกะกะ
3. เกิดปัญหาจากสายต่อได้ง่าย
4. เสียพอร์ต Serial หรือ Parallel Port ไปหนึ่งอัน
5. หากใช้กับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าจะทำให้ได้ความไวต่ำเนื่องจากชิป UART ของเครื่องรุ่นเก่ามีความไวต่ำ
3. PCMCIA Modem
เป็นโมเด็มที่มีลักษณะเป็นการ์ดเสียบคอมพิวเตอร์ประเภทโน้ตบุ๊ก ลักษณะของ PCMIA มีรูปทรงสี่เหลี่ยม บาง มีขนาดใหญ่และหนากว่าบัตรเครดิตไม่มากนัก
ข้อดี
1. สามารถเคลื่อนย้ายไปใช้กับเครื่องอื่นได้ง่าย
2. ติดตั้งได้ง่ายเพียงแค่เสียบการ์ดชนิดนี้เข้ากับพอร์ตที่รองรับก็สามารถใช้งานได้ทันที
3. สามารถส่งข้อมูลได้ในปริมาณมาก และเร็วกว่าโมเด็มแบบ Internal
ข้อเสีย
1. มีราคาแพง
2. ต้องใช้กับอุปกรณ์เฉพาะเท่านั้น
การเลือกใช้งานโมเด็ม
ในการเลือกใช้งานต้องดูหลายประการเช่น ทุนทรัพย์ ความสะดวกในการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นรุ่นเก่าก็ควรใช้แบบ Internal และหากมีแต่ Slot ISA ก็ต้องเลือกแบบ ISA Internal หากต้องการเคลื่อนย้ายไปใช้กับเครื่องอื่นอยู่เรื่อยก็ต้องใช้แบบภายนอก แต่ต้องดูด้วยว่า ISP (Internet Service Provider) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ที่ใช้นั้นรองรับมาตรฐานแบบไหนแต่ที่แน่นอนว่าในปัจจุบันจะเลือกซื้อโมเด็ม ก็ต้องเลือกให้มีมาตรฐาน V.90
การ์ดแสดงเสียง (Sound Card)
เสียงเป็นส่วนสำคัญของระบบมัลติมีเดียไม่น้อยกว่าภาพ ดังนั้น การ์ดเสียงจึงเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่สำคัญของระบบคอมพิวเตอร์ มัลติมีเดีย การ์ดเสียงได้รับการพัฒนาคุณภาพอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพของเสียงและความผิดเพี้ยนน้อยที่สุด ตลอดจนระบบเสียง 3 มิติ
ความชัดเจนของเสียงจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 ประการคือ อัตราการสุ่มตัวอย่าง และความแม่นยำของตัวอย่างที่ได้ ซึ่งความแม่นยำของตัวอย่างนั้นถูกกำหนดโดยความสามารถของ A/D Converter ว่ามีความละเอียดมากน้อยเพียงใด ทำอย่างไรจึงจะประมาณค่าสัญญาณดิจิตอลได้ใกล้เคียงกับสัญญาณเสียงมากที่สุด ความละเอียดของ A/D Converter นั้นถูกกำหนด โดยจำนวนบิตของสัญญาณดิจิตอลเอาต์พุต เช่น
-A/D Converter 8 bit จะสามารถแสดงค่าที่ต่างกันได้ 256 ระดับ
-A/D Converter 16 bit จะแสดงค่าที่ต่างกันได้ 65536 ระดับ
หากจำนวนระดับมากจะทำให้ความระเอียดสูงขึ้นและการผิดเพี้ยนของสัญญาณเสียงยิ่งน้อยลงนั้นคือประสิทธิภาพของเสียง ที่ได้รับดีขึ้นนั้นเอง แต่จำนวนบิตต่อหนึ่งตัวอย่างจะมากขึ้นด้วย
ชนิดของการ์ดแสดงเสียง
การ์ดแสดงเสียงในปัจจุบันแบ่งได้ 2 แบบ คือ
1. การ์ดเสียงแบบ ISA
การ์ดแสดงเสียงประเภทนี้ในปัจจุบันนี้มีให้เห็นน้อยมาก เป็นการ์ดแสดงเสียงรุ่นเก่าที่ทางผู้ผลิตการ์ดเลิกพัฒนาไปแล้วคุณภาพของเสียงที่ได้จากการ์ดชนิดนี้ค่อนข้าวต้ำ จะสามารถแสดงค่าที่ต่างกันได้ 256 ระดับเสียงเท่านั้นและไม่มีระบบเสียงสามมิติ
2. การ์ดแสดงเสียงแบบ PCI
การ์ดแสดงเสียงประเภทนี้ในปัจจุบันเป็นที่นิยมมากเนื่องจากประสิทธิภาพในการแสดงเสียงค่อนข้างดี - ดีมาก มีการแสดงค่าของเสียงอยู่ที่ 16 -64 บิต จึงสามารถสร้างระบบเสียงที่สมบูรณ์แบบได้ดีกว่าการ์ดแสดงเสียงแบบ ISA
เมนบอร์ดปัจจุบันนี้นิยมผลิตการ์ดเสียงประเภทนี้ติดตั้งมาให้บนตัวเมนบอร์ดเลยจึงสามารถใช้งานได้สะดวก แต่ข้อเสียคือ สิ้นเปลือง Memory ของระบบ
การเลือกซื้อการ์ดเสียง
สำหรับการเลือกซื้อการ์ดเสียงนั้น คงจะไม่มีข้อเสนอให้มากนัก คือเลือกันไปตามราคาเลย จะมีตั้งแต่แบบถูกๆ จนถึงหลักพัน คุณภาพของเสียงก็ขึ้นอยู่กับราคา ควรเลือกใช้ให้เขากับความต้องการของตัวเองว่าจะใช้ในด้านไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น